
สเปกของ MacBook Pro 13 นิ้ว (Mid 2019)
- โปรเซสเซอร์ Intel Core i5 แบบ Quad‑core ความเร็ว 1.4GHz ที่มี Turbo Boost
สูงสุด 3.9GHz พร้อม eDRAM ขนาด 128MB (อัปเกรดได้สูงสุดที่ Intel Core i7 รุ่นที่ 8 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.7GHz) - Turbo Boost สูงสุด 3.9GHz
- Intel Iris Plus Graphics 645
- หน่วยความจำ LPDDR3 ความเร็ว 2133MHz ขนาด 8GB อัปเกรดได้มากสุด 16GB
- ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 128GB อัปเกรดได้มากสุด 2TB
- จอภาพ Retina พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone ชนิดของจอภาพแบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 13.3 นิ้ว (แนวทแยง) พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียดปกติ 2560 x 1600px ที่ 227ppi พร้อมรองรับการแสดงสีสันหลายล้านสี
- ความสว่างหน้าจอ 500 นิต
- ขอบเขตสีกว้าง P3
- Touch Bar พร้อมเซ็นเซอร์ Touch ID ในตัว
- พอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) จำนวน 2 พอร์ต รองรับการชาร์จ, รับส่งข้อมูล Thunderbolt สูงสุด 40Gb/s และ USB 3.1 รุ่นที่ 2 สูงสุด 10Gb/s
- คีย์บอร์ดแบ็คไลท์ขนาดมาตรฐาน
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- แทร็คแพด Force Touch เพื่อการควบคุมเคอร์เซอร์และรองรับ Multi-Touch
- การเชื่อมต่อเครือข่าย ไร้สาย Wi‑Fi มาตรฐาน 802.11ac ใช้ได้กับ IEEE 802.11a/b/g/n
- Bluetooth 5.0
- กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 720p
- ลำโพงสเตอริโอพร้อมช่วงไดนามิกสูง
- ไมโครโฟน 3 ตัว
- ช่องต่อ หูฟัง 3.5 มม.
- ขนาด หนา 1.49 ซม., กว้าง 30.41 ซม. และลึก 21.44 ซม.
- น้ำหนัก 1.37 กก.
- มาพร้อม macOS Mojave
- การรับประกัน 1 ปี สามารถซื้อ AppleCare+ เพิ่มเติมได้จะทำให้ประกันกลายเป็น 3 ปี
- ราคาสำหรับรุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 42,900 บาท (ความจุ 128GB) และ 49,900 บาท (ความจุ 256GB)
แกะกล่องชมอุปกรณ์ภายในกล่อง

สิ่งที่มีมาในกล่องคือ
- MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว
- อะแดปเตอร์ แปลงไฟ USB‑C ขนาด 61 วัตต์
- สายชาร์จ USB‑C (2 ม.)
ภาพรวม

การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ในรุ่นนี้สรุปให้เข้าใจกันง่าย ๆ เลย คือ เป็นรุ่นที่มาแทนที่ MacBook Pro 13 นิ้ว ตัวล่างสุดที่ไม่มี Touch Bar แถมตัวเก่านั้นยังใช้ CPU แบบ 2-core อยู่เลย ดังนั้น ในรุ่นใหม่ของ MacBook Pro 13 นิ้ว Mid 2019 จุดเด่นหลักก็คือนี่เลย ใช้ CPU Intel รุ่นที่ 8 ซึ่งเพิ่มจำนวนแกนประมวลผลจาก 2-core เป็น 4-core เร็วขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มเติมด้วยการใส่ Touch Bar มาให้อีกด้วย ทำให้ ณ ปัจจุบันนี้ MacBook Pro ทุกรุ่นมี Touch Bar ใช้ทั้งหมด
สำหรับการออกแบบภายนอกนั้นวัสดุตัวเครื่องยังคงใช้อะลูมีเนียมขึ้นรูปด้วยเครื่องมืออันทันสมัย หากมองจากภายนอกก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าแต่อย่างใด ย้อนกลับไปมอง MacBook Pro ตั้งแต่ปี 2016 ได้ปรับมาใช้พอร์ต Thunderbolt (USB-C) หมดแล้ว และตัดพอร์ดพวก Card Reader ต่าง ๆ ออก เหลือไว้เพียง Audio 3.5mm เอาไว้เท่านั้น
ประสิทธิภาพโดยรวม

MacBook Pro 13″ (Mid 2019) มีประสิทธิภาพที่เร็วและแรงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้ทำงานได้ไหลลื่นมากขึ้น เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเมื่อใช้งานหนัก ๆ อย่างเช่น การตัดต่อวิดีโอความละเอียดที่สูงขึ้นอย่างระดับ 4K หรือการปรับแต่งและตัดต่อรูปด้วย Photoshop หรือ Affinity Photos แบบหลาย ๆ เลเยอร์ พลังจาก CPU แบบ 4-core นั้นจัดสรรค์การทำงานได้ดีกว่า 2-core ในรุ่นเดิมอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทดสอบความเร็ว SSD
จุดนี้หลายคนมีความกังวลว่า SSD ของ MacBook Pro 13″ (Mid 2019) นั้นความเร็วจะเป็นยังไง ทีมงานทดสอบด้วยแอป Blackmagic Disk Speed Test ให้ชมจะได้เห็นความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของรุ่นนี้ครับ

เมื่อลองเปรียบเทียบกับ MacBook Pro 15″ (2018) จะเห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจน

การส่งสัญญาณภาพออกจอนอกรองรับหน้าจอ 5K และ 4K สบาย ๆ
MacBook Pro 13″ (Mid 2019) รองรับการแสดงผลได้พร้อมกันทั้งบนจอภาพของเครื่องในแบบเต็มความละเอียดปกติ 2560x1600px โดยให้สีสันหลายล้านสี และยังรองรับการส่งสัญญาณภาพออกไปจอภายนอกที่ความละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
- จอภาพความละเอียด 5K 5120 x 2880 ที่ 60Hz ได้อีก 1 จอ โดยแสดงสีสันนับพันล้านสี
- จอภาพความละเอียด 4K 4096 x 2304 ที่ 60Hz ได้สูงสุดอีก 2 จอ โดยแสดงสีสันนับล้านสี
- จอภาพความละเอียด 4K 3840 x 2160 ที่ 60Hz ได้สูงสุดอีก 2 จอ โดยแสดงสีสันนับพันล้านสี
ทั้งนี้หากจอภาพหรือเครื่องฉายภาพโปรเจกเตอร์ยังใช้พอร์ตเก่า ๆ อย่าง VGA, DVI หรือใหม่ขึ้นมาหน่อยก็เป็น HDMI ฯลฯ เราต้องหาอะแดปเตอร์ตัวแปลงจาก USB-C ไปเป็นพอร์ตต่าง ๆ เพื่อใช้งานก็ได้เช่นกัน
แบตเตอรี่

MacBook Pro 13″ (Mid 2019) ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ภายในตัวเครื่อง 58.2 วัตต์ต่อชั่วโมง (W/hr) โดยการใช้งานทั่วไปอย่างท่องเว็บผ่านระบบไร้สายนานสูงสุด 10 ชั่วโมง ใช้ดูหนังเล่นภาพยนตร์ iTunes นานสูงสุด 10 ชั่วโมงและมีระยะเวลาสแตนด์บายนานสูงสุด 30 วัน
ทั้งนี้การใช้งานจริง ๆ นั้นแบตเตอรี่จะอยู่ได้นานหรือหมดเร็วก็ขึ้นอยู่กับการใช้ ถ้าหากใช้ทำงานที่ต้องการประมวลผลสูงอย่างการปรับรูปภาพ, การตัดต่อวิดีโอ ฯลฯ เหล่านั้นก็ยิ่งทำให้แบตเตอรี่ลดลงเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับที่ชาร์จมาพร้อมอะแดปเตอร์ แปลงไฟ USB‑C ขนาด 61W ซึ่งส่วนที่ดีของการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จนั้นก็คือ สามารถใช้อะแดปเตอร์ USB-C ของแบรนด์อื่น ๆ มาชาร์จทดแทนได้ในกรณีที่จำเป็น ขอให้กำลังไฟใกล้เคียงกับ 61W ก็พอ
นอกจากนี้ MacBook Pro ตัวนี้ยังชาร์จไฟจากแบตเตอรี่สำรอง (รุ่นที่รองรับ) ได้อีกด้วยนะ
ประสบการณ์หลังการใช้งานทั่วไป

MacBook Pro 13″ (Mid 2019) การอัปเกรดรอบนี้เอาใจผู้ใช้งานที่เริ่มจะเทิร์นโปรที่อาจจะมีทุนจำกัด ไปไม่ถึงรุ่นที่สูงกว่านี้ แต่ว่าการอัปเกรดทั้ง CPU Intel i5 Gen 8 แบบ 4-core มาให้ทำให้ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน (MacBook Pro 13″ Non-Touch Bar) อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าความเร็วของ CPU จะลดลงก็ตามอย่างน้อยสเปคนี้ยังไงก็แรงกว่าและราคาถูกกว่า
มากกว่านี้ยังเพิ่ม Touch Bar มาให้ด้วย ซึ่งหากใครใช้งาน Touch Bar บ่อย ๆ จนคุ้นก็จะพบว่ามันสะดวกต่อการทำงานมาก
จุดที่ต้องพิจารณานั่นคือสเปกของ SSD นั้นความเร็วอ่านเขียนสูงสุดจะอยู่ที่ 1Gbps ซึ่งอาจจะน้อยกว่า MacBook Pro รุ่นพี่ที่แพงกว่าอีกหลายบาท ซึ่งถามว่าความเร็วระดับนี้เพียงพอไหม ก็ต้องบอกว่าถ้าการใช้สอยในงานทั่วไปยังไงก็เกินคำว่าพอ
สิ่งที่อยากแนะนำคือเรื่องความจุของ SSD ในรุ่นเริ่มต้นราคา 42,900 บาทนั้นให้ SSD มาเพียง 128GB ซึ่งผมว่ามันน้อยไปนิด จากประสบการณ์ที่ใช้ MacBook มามากกว่า 10 ปี แนะนำว่า ณ ตอนนี้ควรจะเริ่มต้นต่ำสุดที่ 256GB ได้แล้ว แต่ถ้าหากใครซื้อไปแล้วมันก็มีตัวเลือกคือการซื้อ SSD แบบ External ลองดูรีวิวที่ผมเคยทำเอาไว้ได้เลย อุปกรณ์นั้นก็จะเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บไฟล์โดยเฉพาะผู้ที่นำ MacBook Pro ตัวนี้ไปใช้ในการมัลติมีเดียร์ต้องบอกเลยว่าพื้นที่นั้นมีความจำเป็นมาก ๆ
คลิปรีวิว MacBook Pro 13 นิ้ว (Mid 2019)
https://www.youtube.com/watch?v=xn5hwVdpY_Y&feature=emb_title
เตรียมตัวใช้ macOS Catalina 10.15 เพิ่มลูกเล่นได้อีกเยอะ
ช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2019 นี้ ทาง Apple จะปล่อยอัปเดต macOS Catalina 10.15 ให้ได้ใช้งานกันโดยใน macOS ตัวใหม่นี้จะมีฟีเจอร์ที่หลากหลายมากขึ้นและแถมแอปจาก iOS ก็จะถูกแปลงร่างให้มาใช้กับ Mac ได้อีกด้วย ฟีเจอร์เด่น ๆ อย่าง Sidecar ที่จะทำให้ iPad สามารถเป็นจอมอนิเตอ์เสริมสำหรับ Mac ก็เพิ่มความสะดวกมากมาย ยังไงซะหากซื้อ MacBook Pro 13″ (Mid 2019) ตัวนี้ก็การันตรีได้ว่าจะอัปเกรด macOS Catalina ล่าสุดนี้ได้
ที่มา: https://www.iphonemod.net/macbook-pro-13-mid-2019-review.html